เมื่อเวลา 20.30 น. ของวันที่ 6 พฤษภาคม 63 พ.ต.ท.บุญชู มีศรี รอง ผกก.(สอบสวน)
สภ. ด่านซ้าย จังหวัดเลย ได้รับแจ้งมาว่า มีเหตุ รถกระบะชนกำแพงบ้าน
เป็นทางสามแยกบ้านนาทุ่ม ซอย 1 ต.ด่านซ้าย อ.ด่านซ้าย
และเมื่อรับแจ้งดังกล่าว ก็ได้ประสานงานไปยังหน่วยกู้ภัยสว่างคีรีธรรม
จุดด่านซ้าย และรีบเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุทันที เบื้องต้นก็พบรถโตโยต้าวีโก้แคป สีบรอนซ์ทอง
ทะเบียน 2475 เลย ชนเข้ากับกำแพงบ้านเลขที่ 101 หมู่ 11 บ้านนาทุ่ม ต.ด่านซ้าย อ.ด่านซ้าย จ.เลย
กำแพงได้รับความเสียหายเล็กน้อย
ส่วนรถกระบะสภาพหน้ารถด้านขวาพังยุบ พบนายดุสิต อายุ 56 ปี คนขับรถ ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
ทางเจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องเป่ามาตรวจวัด พบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์เกินที่กฎหมายกำหนด
นำตัวสอบปากคำที่ สภ.ด่านซ้าย
ส่วน นางสาวทัศวรรณ อายุ 40 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า บ้านตนเองอยู่บริเวณทางสามแยก ทุกปีจะมีรถเสียหลัก
หรือเมาขับชนพุ่งบ้านอยู่เป็นประจำ
และครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 5 แล้ว ครั้งสุดท้ายพุ่งชนประตูรั้วเหล็กหน้าเข้าไปในบ้าน จนต้องเอาท่อปูนขนาดใหญ่มากั้นที่หน้าบ้าน
แต่สุดท้ายก็ไม่รอดคืนนี้มาโดนชนอีก
แล้วยังบอกต่ออีกว่า ทุกครั้งที่รถวิ่งพุ่งมาชนบ้าน จะออกเลขท้ายทะเบียนรถคู่กรณีทุกครั้ง งวดวันที่ 16 พ.ค.63
เราก็คงต้องลองซื้อลอตเตอรี่มาเสี่ยงโชค…
เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2563 พ.ต.ท.สมบูรณ์ เอื้อสมานไมตรี สารวัตรท่องเที่ยวเมืองพัทยา
และ พ.ต.ท.สุรพรรณ นิลวิลัย หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ สภ.เมืองพัทยา และ
พ.ต.ต.ชัยณรงค์ จิตสุนทร สว.สส.สภ. เมืองพัทยา
ได้สนธิกำลังร่วมกันปล่อยแถวออกตรวจ บริเวณพื้นที่ชายหาดพัทยา หาดยินยอม หาดพัทยา
เพื่อทำการป้องกันการฝ่าฝืนประกาศให้งดใช้พื้นที่สาธารณะเพื่อสังสรรค์ หรือ ทำกิจกรรม
และให้งดใช้พื้นที่ชายหาดในเขตของพัทยา เป็นการชั่วคราว จนกว่า สถานการณ์ของเชื้อไวรัส
เชื้อระบาดเหล่านี้ จะมีความคลี่คลายลง หากผู้ใดฝ่าฝืนระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการกระจายกำลังออก เพื่อประชาสัมพันธ์ตลอดแนวชายหาด เพื่อให้ประชาชน
และนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่โดยทันที่
แต่กลับพบว่า ตรงจุดบริเวณของ ชายหาดจอมเทียน ยังคงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
ยังคงนั่งทำกิจกรรมกันเหมือนเช่นเคย
บางคนออกกำลังกาย บางคนปูเสื่อนั่งชิวอย่างสบายใจ บางกลุ่มลงเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมตัว นักท่องเที่ยวดังกล่าว มายัง สภ.เมืองพัทยา
เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่งหมด 11 คน และมี คนไทยอีก 12 คน ส่งพนักงานสอบสวน ทำการสอบสวนและดำเนินคดี
ตามความผิด ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อไป
และนอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ทำการควบคุมตัว นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หลังขัดคำสั่งเจ้าหน้าที่ชุดรถควบคุมโดรน
สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ (ประเทศไทย) ที่ทำการประชาสัมพันธ์ให้ออกนอกพื้นที่
แต่กลับโดนชาวต่างชาติคนดังกล่าว อวดเบ่งใส่ว่า ตนนั้นเป็นลูกชายมาเฟียที่ใหญ่ที่สุดที่นี่
และจะไม่ยอมออกจากพื้นที่บริเวณชายหาด
จากการตรวจค้น พบว่า มีการพกอาวุธมีด ในที่สาธารณะ ซึ่งในขณะทำการจับกุมยังแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว
ใส่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม โดยที่ไม่แสดงท่าทีเกรงกลัวเลย
แต่เบื้องต้น ก็ได้ควบคุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งฝากเตือนนักท่องเที่ยว
ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศด้วยว่า ขอให้ความร่วมมืออย่าฝ่าฝืนคำสั่งของภาครัฐ
หากเจ้าหน้าที่พบจะทำการจับกุมดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดทันที…