นายวรกิตติ ศรีทิพากร ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ได้ออกมาชี้แจงประกาศว่า ณ ตอนนี้
จังหวัดน่านอนุญาตเปิดให้จำหน่ายสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในศูนย์การค้า
ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ หรือห้างร้านที่จำหน่ายสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า แล้ว
โดยการปลดล็อคในครั้งนี้ มีผลทันที ตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย.63 เป็นต้นไป
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ยังกำชับชัดเจนด้วยว่า ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด
หลังประกาศปิดพื้นที่เสี่ยงตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค. 63 เป็นต้นมา
การประกาศดังกล่าว เนื่องจากจังหวัดน่านเป็น 1 ใน 9 จังหวัดของภาคเหนือตอนบน
ยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อ
ประกอบกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดน่านพิจารณาเห็นว่าสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า
เป็นสินค้าประเภทหนึ่งที่ช่วยในการอำนวยความสะดวกดำรงชีวิตของประชาชน
จึงมีความเห็นชอบให้ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าเปิดขายได้
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะอนุญาตให้สามารถเปิดห้างสรรพสินค้า และร้านค้าขนาดใหญ่
เพื่อจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าได้
แต่ก็ยังคงใช้มาตรการ การป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด ทั้งการให้บริการ
การวัดระดับอุณหภูมิ และงดการบริการให้คำแนะนำสินค้าจากพนักงาน…
ลูกอีเห็น ลายข้าง 4 ตัว ที่รอดชีวิตจากไฟป่าซึ่งถูกพบในพื้นที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แม่เลา–แม่แสะ
อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้คาดว่าไฟป่าน่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้แม่อีเห็นทิ้งลูกๆไป
อย่างไรก็ตาม ลูกอีเห็น ทั้ง 4 ตัว ซึ่งแบ่งเป็นเพศผู้ 2 แล้วก็เพศเมีย 2 ตัว ปลอดภัย
แล้วก็อยู่ในความควบคุมดูแลของคลินิกสัตว์ป่าแล้ว
และก็ล่าสุดทางคลินิกเปิดโหวตให้ชาวเน็ตร่วมกิจกรรมตั้งชื่อทั้ง 4 ตัว และต้อนนี้ก็ได้ชื่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทางคลินิกสัตว์ป่า ขอใช้ชื่อน้องๆทั้ง 4 ตัว เพื่อสื่อถึงสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในตอนนี้ รวมถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในปีนี้ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ควรจะจารึกไว้
สำหรับตัวผู้ตัวที่ 1 ชื่อ โควิด เป็นสถานการณ์ที่สร้างผลกระทบทำให้โลกชะงัก แต่อีกมุมก็ทำให้ผู้คนหันกลับมาสนใจและช่วยเหลือกันมากขึ้น
ตัวผู้ตัวที่ 2 ชื่อ เคอร์ฟิว เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกือบทั่วโลก และทำให้เราต้องกลับมาใช้ชีวิตอยู่กับบ้านมากขึ้น
ตัวเมียตัวที่ 1 ชื่อ ฟุ้งปลิว เป็นตัวแทนให้ระลึกถึงหมอกควันและ PM 2.5 ที่เชียงใหม่
ตัวเมียตัวที่ 2 ชื่อ ส้มป่อย เป็นตัวแทนของน้ำส้มป่อย ซึ่งเป็นน้ำมงคลที่อยู่คู่กับประเพณีสงกรานต์มาช้านาน…
เจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุม นายเดดไป่อู อายุ 29 ปี และ น.ส.นามิทู อายุ 24 ปี หนุ่มสาวชาวเมียนมา พร้อมของกลางเป็นเงินสด ธนบัตรไทยรวม 16.5 ล้านบาท จับได้ที่บริเวณถนนในหมู่บ้านวังตะเคียน หมู่ที่ 7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมา
ล่าสุด เฟซบุ๊กแฟนเพจบิ๊กเกรียน อ้างว่า ได้ทราบตัวเจ้าของเงินดังกล่าวแล้ว โดยระบุว่า เงิน 16.5 ล้าน ดังกล่าว เป็นของนายจ่อเฮง นักธุรกิจชาวเมียนมาที่มีชื่อเสียงมากทางฝั่งเมียวดี เพราะมีอาชีพค้าขายน้ำมัน ขนส่งน้ำมันกับบริษัทชื่อดังของประเทศไทย ที่ให้ หนุ่มสาวชาวเมียนมา นำเงินข้ามประเทศมา เพื่อจะนำไปเข้าแบ้งค์
โดยนายจ่อเฮงได้ให้ลูกน้อง 2 คน นำเงินสด 16.5 ล้านบาท เข้ามาในประเทศไทย แต่ไม่ได้แจ้งกรมศุลกากร เนื่องมาจากทางธนาคารประเทศเมียนมาปิด ไม่สามารถทำธุรกรรมได้ จึงจำเป็นต้องให้ลูกน้อง 2 คน นำเงินสดข้ามมาฝากที่ธนาคารแห่งหนึ่ง สาขา อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ค่าน้ำมันให้กับบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่งของประเทศไทย
แต่ผลปรากฏว่ามี ตำรวจทางหลวง 4 นายเข้าจับกุม บริเวณวงเวียนพระพิฆเนศ ต.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก ใกล้ตลาด อยู่ในเขตท้องที่ สภ.แม่สอด
หลังจากนายจ่อเฮงทราบข่าว ได้ติดต่อสอบถามไปยังญาติและชิปปิ้งที่ดำเนินธุรกิจให้กับนายจ่อเฮงไปประสานงานช่วยดูแลลูกน้อง จนถึงเวลา 21.30 น. นายจ่อเฮงจึงได้บอกกับผู้ที่ไปประสานงานเดินทางกลับเพราะไม่อยากให้เกินเคอร์ฟิว หลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อลูกน้องได้อีก
จนกระทั่งวันที่ 8 เม.ย. เวลา 11.00 น. ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้ จึงเป็นห่วงชีวิตของลูกน้องทั้งสอง เงินสด และรถที่ถูกยึดไป จึงได้มอบหมายให้นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ มาแจ้งไว้เป็นหลักฐาน
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน จะนำตัวไปศาลอาญารัชดาภิเษก เวลา 09.00 น. วันที่ 9 เมษายน โดยทีมทนายความจะเดินทางประกันตัว 2 ผู้ต้องหา และแถลงข่าวกับสื่อมวลชน จากนั้นไปยื่นเรื่องกับ พล.ต.อ. เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวส ประธานกรรมาธิการ ปปช. รัฐสภา ต่อไป…